•   ortorkor@mof.or.th
  •   02-279-2080-9
ข้อมูลเกษตร
"ดีปลี" ปลูกไม่ยาก​

ดีปลี มีถิ่นกำเนิดที่เกาะโมลัคคาส ในมหาสมุทรอินเดีย มีการนำมาปลูกและแพร่กระจายในประเทศไทยและประเทศอินโดนี เซียเมื่อนานมาแล้ว เป็นไม้เถามีรากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะและเลื้อยพัน เถาค่อนข้างเหนียวและแข็ง มีข้อนูน แตกกิ่งก้านสาขามาก เจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น มีแสงแดดรำไร

นับเป็นพืชสมุนไพรที่มีความสำคัญชนิดหนึ่ง นิยมปลูกใช้แทนเครื่องเทศ คือ พริก พริกไทย สำหรับดินที่เหมาะสมต่อการปลูกควรเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี การเตรียมดินเพื่อปลูกต้องกำจัดวัชพืชและเศษวัสดุที่ปะปนในดินให้ดี ไถพรวนแล้วตากดินประมาณ 7-15 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันอัตรา 2 ตันต่อพื้นที่ 1 ไร่ และควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับความเป็นกรดด่างของดินให้มีค่า 5.5-6.5 ph

ค้างที่ใช้ปลูกเป็นค้างไม้หรือค้างเสาปูนก็ได้ หากเป็นค้างไม้ควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร และเป็นไม้เนื้อแข็ง ที่มีอายุการใช้งาน 10-20 ปี จะทำให้ต้นดีปลี สามารถยึดเกาะได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันเสาค้างไม้หายากและมีราคาสูงจึงนิยมใช้เสาคอนกรีตสี่เหลี่ยมขนาด 15x15 เซนติเมตร สูง 2.5 เมตร แต่รากของดีปลีที่ใช้ยึดเกาะกับเสาค้างคอนกรีตจะไม่สามารถยึดเกาะได้ดีเท่าค้างไม้เพราะมีอุณหภูมิสูงเนื่องจากเสาคอนกรีตจะเก็บความร้อนไว้ ระยะปลูกระหว่างต้นควรอยู่ที่ 1.5-2 เมตร ระหว่างแถว 2 เมตร โดยจะได้จำนวนต้นในการปลูกประมาณ 400-600 ต้นต่อพื้นที่ 1 ไร่

วิธีปลูกใช้ยอดแก่ประมาณ 3-4 ยอดต่อค้าง โดยตัดยอดที่ประมาณ 5 ข้อ แล้วนำไปปลูกติดกับเสาค้าง ฝังลงดินประมาณ 3 ข้อ นำยอดทั้งหมดผูกติดกับเสาค้างเพื่อให้รากที่เกิดขึ้นใหม่ยึดเกาะติดกับเสาค้าง พรางแสงด้วยทางมะพร้าวประมาณ 2 สัปดาห์

ดีปลีเป็นพืชหลายปีและให้ผลผลิตตลอดปี ควรให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ โดยใช้ปุ๋ยคอกโรยที่โคนต้น 1 กำมือต่อต้นต่อเดือน ให้น้ำสม่ำเสมอ ใช้ระบบการให้น้ำตามร่อง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ไม่ควรให้แฉะจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดโรคโคนเน่าได้ กำจัดวัชพืช 2 ครั้งต่อเดือนในช่วงฝนโดยวิธีถางตามแนวร่องก่อนและหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต

หลังปลูกประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปีจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยทั่วไปสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3 ครั้งต่อปี การเก็บเกี่ยวใช้มือเด็ดที่ก้านขั้วผล ใน 1 กิ่งสามารถเก็บผลได้ 2-3 ผลต่อครั้ง การเก็บเกี่ยวแต่ละรุ่นใช้ระยะห่างกัน 1-2 เดือน จากนั้นคัดแยกผลที่มีสีส้มแก่ เนื้อแน่นแข็ง ไม่มีรอยถูกแมลงทำลายออกจากผลที่ไม่มีคุณภาพ นำไปตากแห้งทันทีเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา โดยตากบนภาชนะยกพื้น สะอาด ป้องกันฝุ่นละอองหรือการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์จนแห้งสนิท อัตราแห้งของดีปลี 4 กิโลกรัมสดจะได้ 1 กิโลกรัมแห้ง สำหรับผู้ที่ปลูกเพื่อขายผลผลิต จากนั้นเก็บรักษาในภาชนะที่สะอาดระบายอากาศได้ และปราศจากแมลงหรือสัตว์รบกวน

คุณภาพที่ตลาดต้องการ คือ ผลขนาดใหญ่ สีน้ำตาลแดง ไม่ดำคล้ำ แห้งสนิทไม่กรอบเกินไป ไม่มีเชื้อราหรือแมลงติดอยู่ และไม่มีสิ่งปนเปื้อน การตากแห้งและเก็บรักษาจึงสำคัญมากต่อราคาขาย และสำหรับผู้มีเป้าหมายปลูกเพื่อการค้าควรศึกษาหรือติดต่อตลาดรับซื้อไว้เป็นการล่วงหน้าก่อนปลูกจะเป็นการดี

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/agriculture/611727